วันอาทิตย์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ความรักกับความอดทน

ความรัก" ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่มนุษย์มีอยู่มากมายราวกับว่าจะไม่มีวันหมด แต่สิ่งที่มนุษย์มีอยู่จำกัดจนดูเหมือนคับแคบเห็นแก่ตัว ก็คือ "ความอดทน" ยิ่งรักมากก็ยิ่งต้อง "อดทน" กับปัญหาต่างๆ รอบข้าง เพื่อรักษาความรักนั้นไว้ให้ยั่งยืน แต่ในทิศทางตรงกันข้าม เมื่อใดที่สิ้นรักเมื่อนั้น "ความอดทน" ก็หามีไม่ สิ่งใดที่เคยทนได้ก็กลับแปรเปลี่ยนไป สิ่งใดที่เคยเห็นดี เห็นชอบ กลับกลายเป็นขวางหูขวางตา ทั้งๆ ที่อีกฝ่ายหนึ่งกระทำต่อตนอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ท้ายที่สุดเราเป็นฝ่ายทอดทิ้งให้ความรักนั้นต้องจบลง บางครั้งความรักนั้นอาจจบลงทั้งๆ ที่ความรู้สึกรักของเรายังมีอยู่เต็มหัวใจ เพียงแต่การถูกกระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่ง "ความอดทน" บอกให้เราต้องไป...ไปทั้งที่ยัง "รัก" เพราะหากรักแล้วต้องเจ็บ ต้องช้ำ ทางเลือกที่ดีที่สุดก็น่าจะหมายถึง "การจากไปในวันนี้เพื่อที่จะเข้มแข็งและลุกขึ้นได้ใหม่ในวันข้างหน้า" อย่างนั้นมิใช่หรือ "หากรักแล้วต้องร้องไห้ไปตลอดชีวิต ตนขอเลือกที่จะร้องไห้สองสามวันแล้วยิ้มไปตลอดชีวิตที่ดีกว่า" สุดท้ายก็ขั้นอยู่กับตัวเองแล้วล่ะนะ ว่าจะร้องไห้ไปตลอดชีวิต หรือร้องไห้แค่วันนี้แล้วยิ้มไปตลอดชีวิต ชีวิตเรา ๆ สามารถเลือกเองได้จริงมั้ย? "คนร่วมทาง" คนเราคบหาร่วมทางกัน มีค่าตรงที่รู้จักกัน คนเรารู้จักคุ้นเคยกัน มีค่าตรงที่รู้ใจกัน คนเรารู้ใจกันแล้วจากกัน มีค่าตรงที่อยู่ในความทรงจำที่ดีของกัน นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าจะรักอย่างไรก็อย่าให้ตาบอดเสียล่ะ เมื่อวันหนึ่งความอดทนบอกเราว่าถึงเวลาแล้ว ก็ควรจะรับฟังไว้บ้างแล้วกัน เราเป็นผู้กำหนดชีวิตของเรา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น